วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อธิบายคำสั่ง sql


<?php
$sql ="select * from student order by id asc ";

การเลือกทุกฟิล  โดยเรียงข้อมูลจากน้อยไปมากใช้ asc และถ้าเรียงจากมากไปน้อยใช้ desc

$query=mysql_query($sql) or die(mysql_error());

ฟังก์ชั่นที่ใช้คู่กับ html ประมวลผลรับค่าตัวแปลและตรวจสอบ  html ว่าใส่ชื่อ html ชื่อเทเบิลถูกต้องหรือไม่
$num=mysql_num_rows($query);
การแสดงจำนวนเรคคอร์ดจากคำสั่ง html

cho $num;

ฟังก์ชั่นที่ใช้ในการแสดงผลลัพธ์ ทั้งตัวแปลและตัวเลข

?>

วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

if else

<?php
$score=79;
if($score < 50){
echo 'grade 0';
}else if($score < 56){
echo 'grade 1';
}else if($score < 60){
echo 'grade 1.5';
}else if($score < 66){
echo 'grade 2';
}else if($score < 70){
echo 'grade 2.5';
}else if($score < 76){
echo 'grade 3';
}else if($score < 80){
echo 'grade 3.5';
}else {echo'grade4';}
?>

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

เมื่อความรักมาสุดทาง

เมื่อความรักมาสุดทาง



" ความรักที่เลวร้าย อาจกลายเป็นรักที่ดีได้หากเราเปิดใจรับสิ่งใหม่ให้กับตัวเอง "


         บทความต่อไปนี้จะพูดถึงประสบการณ์ที่เคยเจอมากับตัวเอง หลายคนเมื่อมีความรัก ก็มักจะทุ่มเทให้กับสิ่งนั้นและไม่ได้นึกถึงอนาคต จึงไม่ได้เผื่อใจไว้ จนวันนึงความรักที่มีอาจจะมาถึงทางตัน ไม่ว่าจะมีสาเหตุมาจากสิ่งใดก็ตาม สุดท้ายแล้วมันก็สรุปได้แค่สั้นๆว่า 

.............................  เส้นทางแห่งรัก ที่มาถึงทางตัน  " มันทำให้คุณเสียใจ " ...................................




         ความเสียใจเมื่อมันได้เกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะยอมรับ หลายคนที่ผิดหวังในรักก็จมปลักและทำร้ายตัวเองเพียงเพราะเสียคนที่รักไป แต่ถ้าคิดในทางกลับกัน เราต้องดีใจสิ ที่เราได้หัวใจเราคืน  อยากจะทำอะไรก็ทำได้ตามอิสระ ดีกว่าไปทนอยู่กับคนที่เค้าไม่ได้จริงจังอะไรกับเรา ดีแต่ทำให้เราเสียใจ ซึ่งคนที่ควรจะเสียใจทีหลังก็คือเค้า เพราะเค้า " ได้สูญเสียคนที่รักเค้าที่สุดไปแล้ว " 

        ความรักที่มันจบลง ย่อมเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่จะอยู่กับความทุกข์นั้นไปตลอด สักวันหนึ่งเวลาจะสอนเรา จะทำให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็ง มันอาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่นาน แต่สุดท้าย... มันก็จะผ่านไปได้ด้วยดี 




....Mayris[A]

ประโยชน์ของเบียร์

          


ประโยชน์ของเบียร์


       สำหรับ คอเบียร์คงหูผึ่งเมื่อมีคนบอกว่าเบียร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถึงอย่างไรก็ควรดื่มพอประมาณ แล้วเหตุใดฝรั่งจึงบอกว่าเบียร์ดีมีประโยชน์ เหตุผลก็คือเบียร์มีสารต่างๆ มากกว่า 1,000 ชนิด รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ เช่น สังกะสี แมกนีเซียม เหล็ก และแร่ธาตุจำเป็น ซึ่งช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อ แข็งแรง เหตุผลดีๆ ยังมีอีกมากมาย เช่น




  • ป้องกันโรคหัวใจ จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มเบียร์ 40 - 60% แต่ควรดื่มไม่เกินครึ่งลิตรต่อวัน


  • ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต สารที่มีประโยชน์ในเบียร์สามารถช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันจึงช่วยป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต



  • ช่วยลดความดันโลหิต แพทย์ชาวฮอลแลนด์และจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดค้นพบว่า การดื่มเบียร์ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้



  • ป้องกันเบาหวาน ผู้ที่ดื่มเบียร์มีจำนวนน้อยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เหตุผลก็คือ เบียร์ทำให้ร่างกายสามารถปรับฮอร์โมนอินซูลิให้ความทรงจำดี นักดื่มเบียร์จึงไม่ค่อยเป็นโรคอัลไซเมอร์



  • ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เบียร์ให้ผลดีต่อกระดูก สามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้ แต่ได้ผลเฉพาะกับหนุ่มสาวเท่านั้น



  • ช่วยให้อายุยืน จากการศึกษามากกว่า 50 สำนัก พบว่า ผู้ที่ดื่มเบียร์วันละ 1 - 2 แก้ว มักจะมีอายุที่ยืนยาว เนื่องจากเบียร์มีสารปกป้องหัวใจ



  • ป้องกันท้องร่วง โมเลกุลในเบียร์มีส่วนประกอบเหมือนกันกับกรดนมและน้ำส้มสายชู สารที่ว่านี้ขัดขวางเชื้อโรคในลำไส้ที่เป็นสาเหตุของท้องร่วงไม่ให้แพร่ เชื้อจนท้องเสีย



  • ต้านความเครียด นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Montreal ค้นพบว่า คนทำงานที่ได้ดื่มเบียร์บ้างเป็นครั้งคราวมีความเครียดน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเบียร์



  • ป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต นักวิชาการจากเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ค้นพบว่า การดื่มเบียร์วันละหนึ่งขวดก็จะได้รับแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ถึง 40%



  • ป้องกันโรคนอนไม่หลับ สารจากดอก Hops ใน เบียร์เปรียบเสมือนยานอนหลับจากธรรมชาติ ช่วยให้ประสาทผ่อนคลาย ดังนั้น การดื่มเบียร์หนึ่งแก้วในตอนเย็นจึงเหมือนกับการกินยานอนหลับ



  • ช่วยต้านมะเร็ง เบียร์มีสารโพลีฟีนอยด์ที่จะช่วยป้องกันมะเร็ง โดยการดักจับอนุมูลอิสระตัวร้ายออกจากร่างกาย สารโพลีฟีนอยด์หลักก็คือ Xanthohumol ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยยับยั้งโปรตีนที่ช่วยในการพัฒนาการของมะเร็ง



  • ช่วยให้ผิวสวย ในเบียร์มีวิตามินสูง เช่น Pantothenic Acid วิตามินบี 3 และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิวใหม่ ช่วยสร้างคอลลาเจนและเม็ดสี ผิวจึงเรียบเนียนและอ่อนนุ่ม

ดอกไม้ทายนิสัย

ดอกไม้ทายนิสัย

  • ดอกกุหลาบ
เริ่มต้นกันที่ดอกกุหลาบก่อนเลย ในฐานะที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีของดอกไม้ทั้งมวล แถมยังถูกนำมาใช้เป็นดอกไม้เพื่อแสดงความรักอีกด้วย เริ่ดซะไม่มี คนที่ชอบดอกกุหลาบนั้น ออกจะรักสวยรักงามมากสักหน่อย ชอบชีวิตที่หรูหราโอ่อ่า สะดวกสบาย หรือการเป็นคนเด่นดังมีชื่อเสียง ไปไหนมาไหนคนรู้จักไปหมด นอกจากนี้ยังเป็นคนที่กระตือรือร้น ใฝ่รู้ ชอบแสวงหาประสบการณ์ดีๆ ให้กับชีวิของตนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
  • ดอกทานตะวัน
คนที่ชอบดอกทานตะวัน จะเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองมาก และถือดีในความรู้ความสามารถของตัวไม่น้อย ชอบพึ่งพาลำแข้งของตัวเองมากกว่าไปงอนง้อขอใครกิน ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมายชีวิตเอาไว้สูงๆ แต่ความเป็นคนเก่ง สนใจใคร่รู้ รวมทั้งขยันขันแข็ง ก็ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีใจคอกว้างขวาง มีเพื่อนฝูงมากมาย และชอบเข้าสังคม แต่จะเป็นคนที่ไม่แคร์ใครนัก
  • ดอกมะลิ
สำหรับคนที่ชอบดอกมะลิ ดอกไม้ไทยสีขาวที่มีกลิ่นหอมละมุนละไมนี้ อุปนิสัยมักเป็นคนเรียบร้อย อ่อนโยน ค่อนข้างจะจู้จี้จุกจิกอยู่สักหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะความเป็นคนเจ้าระเบียบที่ชอบความเรียบร้อยงดงามนั่นเอง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความรู้สึกอ่อนไหวมาก จะรู้สึกไวว่าใครคิดเช่นไรกับตน และเป็นคนคิดมาก ช่างวิตกกังวลไปกับคำพูดคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นผู้ที่ชอบชีวิตเรียบง่าย รักสงบ และเป็นตัวของตัวเองดีทีเดียว
  • ดอกเบญจมาศ
คนที่ชอบดอกเบญจมาศ เป็นคนที่ชอบความเรียบง่าย ธรรมดาๆ ชอบใช้ชีวิตในการทำงาน เข้ากับคนง่าย ผูกมิตรกับคนเก่ง ช่างเจรจา เพราะไม่มีบุคลิกถือตัว ไม่ใช่คนที่มีเสน่ห์โดดเด่นอะไรนักกับเพศตรงข้าม และไม่ค่อยสนใจในเรื่องเหล่านี้ รักง่ายลืมง่ายว่างั้นเถอะ แต่จะไปให้ความสำคัญในการศึกษาหาความรู้ แสวงหาประสบการณ์ให้ชีวิตมากกว่า เป็นคนขยัน ชอบการทำงาน แต่ว่าต้องเป็นงานที่ไม่มีความซ้ำซากจำเจจนเกินไป
  • ดอกกล้วยไม้
คนที่ชอบดอกกล้วยไม้จะเป็นคนที่อ่อนโยน นิ่มนวล โรแมนติกมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ที่มีความอดทนหนักแน่นอยู่ในตนเองด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ชอบชีวิตเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่จะชอบการค่อยๆเปลี่ยนแปลงเพื่อไปสิ่งที่ดีกว่า โดยผ่านการคิดหน้าคิดหลังรอบคอบมาแล้ว เป็นคนที่ตัดสินใจเก่งและชอบแก้ปัญหาด้วยการประนีประนอม
  • ดอกบัว
สำหรับคนที่ชอบดอกบัว มักเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แถมยังเต็มไปด้วยความเมตตาปราณี ไม่รู้จักโกรธเกลียดใครหรอก ไม่ว่าใครจะมายังไงก็ดีกับเขาไปหมด มีอารมณ์และความรู้สึกอันละเอียดอ่อนที่ดึงดูดให้คนเข้ามาหามาพึ่งพาทางด้านจิตใจ เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น ได้เกี่ยวข้องกับคนมากมาย แม้ว่าจะรักความสงบสักแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นคนที่รักครอบครัวมากอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
  • ดอกหญ้า
สำหรับคนที่ชอบดอกหญ้าเล็กๆ ตามริมทาง ไม่ว่าจะเป็นดอกอะไรก็ตาม นิสัยมักเป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบผูกพันหรือมีพันธะกับใคร แม้แต่คนในครอบครัวตัวเองก็ตาม ชอบใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เดินทางไปนั่นมานี่เพื่อแสวงหาประสบการณ์ชีวิต เพราะความเป็นคนที่ชอบศึกษาและเรียนรู้เอามากๆ นั่นเอง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ให้ค่าความสำคัญต่อเรื่องความซื่อสัตย์และคุณธรรมความดีเป็นอย่างยิ่ง จะทนไม่ได้เลยหากโดนโกหกหลอกลวง
  • ดอกทิวลิป
คนที่ชอบดอกทิวลิปมักมีนิสัยช่างคิดช่างฝัน เต็มไปด้วยจินตนาการที่ลื่นไหลไม่ยอมหยุด ทั้งยังมากด้วยอารมณ์อันโรแมนติกเต็มเปี่ยมในหัวใจ หลงรักคนง่าย แต่ก็จะเปลี่ยนใจง่ายเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี มักช่วยเหลือคนอื่นอย่างเต็มอกเต็มใจเสมอ เป็นที่พึ่งพิงของคนที่มีความทุกข์ได้อย่างวิเศษ แต่ในขณะเดียวกันก็จะเป็นคนที่มีความขัดแย้งในตัวเองมาก ไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามายุ่งในเรื่องส่วนตัว
  • ดอกราชพฤกษ์
คนที่ชอบดอกราชพฤกษ์หรือดอกคูน ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติไทยเรานั้น มักเป็นนักมนุษยธรรม เป็นคนใจบุญ ใจกว้าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับทุกๆ คน ชอบความเท่าเทียม และต้องการเห็นคนทุกคนเสมอภาคกัน นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้า รักอิสระ และจะไม่ยอมให้กฎเกณฑ์ใดๆ เข้ามามีอิทธิพลในชีวิต เป็นคนชอบศึกษาหาความรู้ มีเพื่อนมาก และรักเพื่อนฝูงเท่าเทียมกันทุกคน มีความเป็นผู้นำทางความคิดในสังคม
  • ดอกบานไม่รู้โรย
คนที่ชอบดอกบานไม่รู้โรยจะเป็นคนเงียบๆ ดูธรรมดา แต่จะมีความเยือกเย็น หนักแน่น เอาจริงเอาจัง และค่อนข้างจะถือตัวอยู่สักหน่อย ไม่ชอบให้ใครมาพูดเล่นด้วยเรื่อยเปื่อย ดูเหมือนเป็นคนเย็นชา ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จึงไม่ค่อยมีคนกล้าเข้าใกล้นัก อย่างมากก็มองดูด้วยความชื่นชมอยู่ห่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ไม่ชอบชีวิตที่ตื่นเต้นโลดโผน แต่ต้องการความหนักแน่นที่ต่อเนื่องมั่นคง และเสมอต้นเสมอปลายมากกว่า
  • ดอกซ่อนกลิ่น
มาถึงคนที่ชอบดอกซ่อนกลิ่นกันบ้าง แม้ว่าบางคนอาจจะถือเป็นดอกไม้ที่ไม่นิยมนำมาประดับบ้านในเวลาปกติก็ตาม แต่ก็มีคนชอบไม่น้อยเลยทีเดียว นิสัยของคนที่ชอบดอกซ่อนกลิ่นนี้ดูผิวเผิน อาจจะคิดว่าเป็นคนง่ายๆ แต่ถ้าได้คบหาจะพบว่า เป็นคนที่มีความลึกซึ้งมาก ทั้งยังเป็นคนที่เชื่อมั่นและหยิ่งทะนงในตัวเองอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ชอบเก็บความรู้สึก มักไม่มีใครรู้ว่าคิดอะไรอยู่ และยังไม่ใช่คนที่เปิดเผยตัวให้ใครเข้ามารู้จักง่ายๆ ถ้าไม่มีความคิดลึกซึ้งเพียงพอ
  • ดอกเฟื่องฟ้า
สำหรับคนที่ชอบดอกเฟื่องฟ้าที่เป็นดอกไม้ธรรมดา แถมยังดูออกไปทางเชยๆ อีกต่างหาก มักเป็นคนที่มีความเป็นกันเอง ชอบแสวงหาเพื่อน หรือหยิบยื่นมิตรภาพให้ใครต่อใครเสมอ ชอบดูแลช่วยเหลือคนอื่นด้วยจิตใจที่ปรารถนาดีเต็มเปี่ยม ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่เปราะบาง เจ็บปวดง่าย แต่จะไม่ใช่คนฟูมฟาย หรือต้องการให้ใครมาปลอบโยน เป็นคนที่มีความอดทนเป็นเลิศพอๆ กับความอ่อนไหว ปรวนแปรในจิตใจ

Cocktail & Mocktail



ค็อกเทล

ค็อกเทล หมายถึง เครื่องดื่มที่ใช้เหล้าชนิดหนึ่ง เป็นเครื่องปรุงหลักแล้วปรุงแต่งกลิ่น และรสให้ชวนดื่มยิ่งขึ้น ด้วยการผสมเครื่องดื่มอื่นๆ ที่มีกลิ่นและรสแตกต่างกัน

ตามปกติแล้วค็อกเทลทุกตำรับ จะมีเหล้าอยู่ประมาณ 60 % หรือน้อยที่สุดจะต้องมี ไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง ของเครื่องปรุงทั้งหมด

เหล้าที่นิยมใช้ผสมค็อกเทล อาจจะใช้ยิน, วิสกี้,วิสกี้,วอดก้า, บรั่นดี และอื่น ๆ เมื่อผสมเครื่องปรุงเข้าด้วยกันแล้ว บางตำรับก็เพียงคนพอเข้ากัน บางตำรับก็ต้องเขย่าอย่าแรงกับน้ำแข็ง ค็อกเทลที่ผสมแล้วนิยมเสิร์ฟเย็นจัดในแก้วค็อกเทล




Mocktail 
Mocktail คือ เครื่องดื่มที่ผสมจากน้ำผลไม้ โซดา หรือส่วนผสมอย่างอื่น แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนใหญ่แล้วจะเสิร์ฟในแก้วใบสวยแต่งด้วยเชอร์รี่ หรือมะนาวฝาน  และคำว่า mock (adj.) ในภาษาอังกฤษมีความหมายว่า ‘เลียนแบบ’ อยู่แล้วด้วย คำๆ นี้จึงผสมขึ้นมาอย่างลงตัวทีเดียว

นิทาน บ้านขนมปัง

นิทาน ฮันเซลและเกรเทล (บ้านขนมปัง)
ฮันเซลและเกรเทลเป็นนิทานพื้นบ้านของทางทวีบยุโรบซึ่งสองพี่น้องตระกูลกริมม์นำ เรื่องมารวบรวมไว้ให้ได้อ่านกัน ในเนื้อเรื่องนั้นเล่าถึงความรัก,ความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของสองพี่น้องที่ได้เกิดมาในครอบครัวของคนที่ยาก จน อย่างช่วยไม่ได้เป็นนิทานที่ออกไปในแนวที่น่าสะเทือนใจอยู่เหมือนกันนะคะ




ที่ๆ ใกล้ ๆกับขอบหน้าผาที่ในป่าแห่งหนึ่ง มีครอบครัวของคนตัดไม้ที่ยากจนมาก อาศัยอยู่ ในทุก ๆวันผู้เป็นพ่อจะออกไปตัดไม้ที่ในป่า และจะนำเอาไม้เหล่านั้น ไปขายที่ในเมือง ส่วนลูก ๆของเขาซึ่งก็มีลูกชายคนโตชื่อฮันเซลกับลูกสาวคนเล็กชื่อเกรเทล ก็จะคอยช่วยเหลือแม่ของตนทำงานอยู่ที่บ้านด้วยความขยันขันแข็ง แต่แล้วอยู่ต่อมาไม่นาน ในวันหนึ่งแม่ของพวกเขาก็มีอันต้องเจ็บป่วยและได้ตายลงไป

พ่อได้พาภรรยาคนใหม่เข้ามาที่บ้าน และได้บอกว่า” ต่อแต่นี้ไปพวกเราจะได้อยู่กับแม่คนใหม่ โดยไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป..” ฮัน เซลกับเกรเทล ต้องทำงานอย่างหนักตามคำสั่งของแม่คนใหม่ ของพวกเขา แต่ถึงกระนั้นแม่เลี้ยงก็ไม่ค่อยที่จะใจดีกับเด็กทั้งสอง ด้วยนางเป็นผู้หญิงที่ใจร้าย ยิ่งไปกว่านั้นยังจะคอยดุด่าว่าพวกเขาอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย


เมื่อเวลาที่พ่อออกไปทำงานแล้ว แม่เลี้ยงก็จะออกคำสั่งให้สองพี่น้องทำงาน ทุกอย่างในบ้านกันอย่างตัวเป็นเกลียว ส่วนตัวนางเองนั้นจะหนีเข้าไปหาที่หลับนอน อยู่อย่างสุขสบายโดยไม่คิดที่จะทำอะไรเลยทั้งสิ้น แต่เมื่อถึงเวลาที่พ่อได้กลับมาถึงที่ บ้าน นางก็จะพูดโกหกบอกกับพ่อว่า ” เด็กทั้งสองคน…เอาแต่เล่นและไม่ยอมช่วย เหลือทำงานอะไรเลยสักอย่างเดียว…”



อยู่ต่อมาในปีหนึ่ง ซึ่งปีนั้นเป็นปีที่แห้งแล้งมากฝนก็ไม่ตก ข้าวสาลีและ พืชผักที่มีในทุ่งนาก็มีอันต้องเหี่ยวแห้งลงไปจนเกือบจะทั้งหมด อาหารเหลือน้อยลง ดังนั้นที่บ้านของคนตัดไม้ที่มีอยู่ตั้งสี่คน ก็เช่นกัน ถ้าไม่มีมาตรการและทำอะไรลงไปสักอย่าง ทุกคนจะต้องหิวโหยและอาจ ตายลงไปได้
” เธอคิดที่จะทำอย่างไร??เรากำลังจะไม่มีอาหารอะไรเหลือ เพียงพอให้สำหรับพวกเด็ก ๆแล้วนะ ”


แม่เลี้ยงจึงพูดว่า ” ถ้าเป็นอย่างนั้น ในวันพรุ่งนี้แกก็ต้องพาเด็กทั้งสองเข้าไป ที่ในป่าลึก แล้วปล่อยพวกเขาไว้ที่นั่น เท่านั้นเองเป็นทางเลือกที่จะช่วยเหลือเราทั้งสอง ไว้ได้โดยไม่ต้องอดตายตามไปเสียด้วย ” พ่อตกใจมากและได้รีบตอบปฏิเสธในทันที “ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก เด็ก ๆ จะต้องตายลงไปอย่างแน่นอน..ถ้าขืนเราทำแบบนั้น ”



” อ้อ นี่แกว่าถ้าอาหารหมดลง แล้วเราทั้งสองคนก็จะต้องมาอดตายตามลงไปด้วย อย่างนั้น มันดีหรือไง?” ในที่สุดพ่อก็จำใจที่จะต้องเห็นตามแม่เลี้ยงไปด้วยอย่างที่ก็ได้นึกตำหนิใน ความคิด ของนาง และในตอนนั้นฮันเซลกับ
เกรเทลก็แอบมาได้ยินพ่อกับแม่เลี้ยงพูดกัน ถึงตน ทั้งสองจากเงามืดที่ตรงประตู….



” พรุ่งนี้เราทั้งสองคนจะต้องโดนเอาไปปล่อยที่ในป่า แล้วก็จะไม่มีทางได้กลับมา ที่นี่อีกแล้ว….” เกรเทลเริ่มร้องไห้ ” อย่ากลัวไปเลย พี่มีแผนการณ์บางอย่าง” และหลังจากนั้น ในทันทีที่ทุกคนหลับไปแล้ว ฮันเซลก็ได้แอบเดินย่อง ออกไปสู่ลานหน้าบ้าน บนพื้นข้างนอกนั้นเกลื่อนไปด้วยก้อนกรวดเล็ก ๆ ฮันเซลโกยก้อนกรวดเหล่านั้นไส่ไว้จนเต็มกระเป๋าของเขา


” เอก อี้ เอ็ก เอก ” เมื่อถึงเวลาเช้าตรู่ ผู้เป็นแม่เลี้ยงก็เข้ามาปลุกเด็ก ทั้งสอง ” ตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ ได้แล้ว” นางเรียก ” พ่อของแกกำลังจะเข้าไป ตัดไม้ที่ในป่า เราจะตามไปกับเขาด้วย ” เกรเทลเริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกอย่างร้อนรนใจ ฮันเซลจึงได้รีบแอบกระซิบปลอบใจน้องว่า ” ไม่ต้องกลัว…ถ้าเราอธิฐาน..พระเจ้าจะ ต้องปกป้องช่วยเราอย่างแน่นอน ”


ฮันเซลและเกรเทล เดินตามพ่อกับแม่เลี้ยงเข้ามาที่ในป่า และในระหว่างทาง ฮันเซลทำท่าเหมือนมองไปที่ด้านหลังอย่างซ้ำ ๆหลายครั้งหลายครา ” นี่ ฮันเซลทำไมเจ้าจะต้องทำท่าหันไปมองที่ด้านหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างนั้นด้วยล่ะ ?” ฮันเซลได้ตอบว่า ” ก็มันเหมือนมีเศษเงินตกอยู่นี่ ” พ่อได้พูดว่า ” นั่นมันไม่ใช่เศษเงินตกอยู่หรอก มันเป็นแค่เพียงเศษก้อนหินที่กระทบกับแสงแดด แล้วทำให้เกิดเป็นแสงขึ้นมาเท่านั้นเอง”


ฮันเซลไม่ได้มองเห็นเศษเงินอย่างที่เขาพูดหรอก เขาเพียง แต่ตั้งใจหันไปแอบโยนเศษก้อนหินทิ้งเอาไว้ หมายทำเป็นเครื่องหมาย ทางขากลับบ้านเท่านั้นเองต่างหาก….และในไม่นานเมื่อทั้งหมดพากันมาถึงที่ ข้างในป่า ลึกแล้ว คนตัดไม้กับแม่เลี้ยงก็ก่อกองไฟขึ้นมากองหนึ่ง และได้พูดโกหกบอก พวกเขาว่าจะเข้าไปตัดไม้ที่อื่น โดยให้เขาทั้งสองนั่งรอและได้พากันหนีกลับไป…


ฮันเซลกับเกรเทลกินขนมปังที่ได้มา ในไม่ช้าเด็กทั้งสองจึงเริ่มง่วง และในที่สุด ก็เคลิ้มหลับไปตรงข้างกองไฟจนถึงเวลากลางคืน เขาทั้งสองด้วยความหนาวจึงรู้สึกตัว และตื่นขึ้นมา ” พี่ นี่เราทั้งสองจะต้องมาตายอยู่ที่ในกลางป่าลึกอย่างเช่นนี้หรือ??” ฮันเซลจึงปลอบน้องว่า “ไม่ต้องกลัว..เชื่อพี่สิน้องรัก.. ”



” เมื่อพระจันทร์ขึ้นเต็มดวงแล้ว เราก็จะสามารถหาทางกลับบ้านได้ ” เศษก้อนหินที่ฮันเซลได้แอบโยนทิ้งทำทางขากลับเอาไว้เมื่อตอนกลางวัน นั้น เมื่อต้องแสงของพระจันทร์ก็ทำให้เกิดเป็นแสงเรือง ๆสะท้อน ให้เห็นเป็นทาง สองพี่น้องจูงมือกันออกเดิน เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่าง เด็กทั้งสองก็มาถึงกระท่อม ผู้เป็นแม่เลี้ยงค่อนข้างจะขัดเคืองใจ เมื่อเห็นเด็กทั้งสองกลับมาเป็นอย่างมาก


” เด็กสองคนหาทางกลับมาได้อย่างไร?…วันนั้นทั้งสองทำอะไร ที่เป็นที่น่าสงสัยอะไรหรือเปล่า?? ” พ่อจึงพูดว่า ” ถ้าจะมีก็เพียงแต่ฮันเซลจะเดินและหัน หลังไปดูเศษก้อนหินหลายครั้งเท่านั้นเอง ” แม่เลี้ยงเมื่อได้ฟังดังนั้น” นั่นแหละ ! ฉันรู้แล้ว..ก้อนหินพวกนั้นแหละเป็นเครื่องหมายแสดงทางขากลับมาบ้านได้”


แม่เลี้ยงได้สั่งให้พ่อเอาฆ้อน และตะปูไปตอกติดปิดห้องของเด็กทั้งสองเอาไว้ เพื่อไม่ให้ฮันเซลมีโอกาสได้ออกไปหาเก็บเศษก้อนหินมาเตรียมเอาไว้ ได้อีกอย่างครั้งแรก…” พรุ่งนี้จะต้องทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน ” และสิ่งนี้เกรเทลก็แอบได้ยินที่นางพูด ” คราวต่อไปเราคงจะไม่มีทางกลับมา ที่นี่ได้อีกอย่างแน่นอน ” ” ไม่ต้องกลัวสิ…พระเจ้าจะต้องช่วยเหลือเรา” ฮันเซลกล่าว


ในวันรุ่งขึ้นแม่เลี้ยงหักขนมปังแบ่งออกเป็นสองชิ้นแล้วยื่นให้เด็กทั้ง สองคนละชิ้น ก่อนที่จะพาพวกเขาเข้ามาที่ในป่าลึก ฮันเซลรับขนมปังมาและบี่ให้แตกเป็น ชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นเขาก็แอบทิ้งเศษขนมปังไว้ตามทาง “ฮันเซลทำไม เจ้า ถึงได้หันไปมองที่ด้านหลัง ” ฮันเซล ได้ตอบว่า “ก็มันมีนกตามพวกเรามานี่”


เหล่านกกาพากันจิกกินเศษขนมปังที่ฮันเซลแอบหย่อนทิ้งทำทางไว้ จนหมดสิ้นไม่มีหลงเหลือ..เขาทั้งสองได้สิ้นแล้ว
ซึ่งเส้นทางขากลับ… แม่เลี้ยงกับพ่อได้หนีกลับไปอีกตามเคยเมื่อพาพวกเขามาถึงที่ข้างในป่าลึก ฮันเซลกับเกรเทลออกเดินไปเรื่อย ๆ ข้างในป่าอย่างไร้จุดหมายปลายทาง.. ในที่สุดพวกเขาก็มีอันต้องหลงทางเสียแล้วสิ…


ขณะที่สองพี่น้องกำลังเหน็ดเหนื่อย และใกล้จะสิ้นหวัง ในเวลานั้นได้มีกลิ่นที่หอมหวานลอยมา ทั้งสองพบ บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งพวกเขาไม่เคยพบเห็นบ้านเหมือนอย่างนี้มาก่อนเลย ผนังของบ้านทำด้วยขนมเค้ก หน้าต่างทำด้วยลูกกวาดเป็นบ้านที่น่าอร่อย เหลือเกิน พวกเขาเดินย่องเข้าไปที่ใกล้ ๆ แล้วหักกินส่วนที่เป็นหลังคา ในทันทีนั้นฉับพลันก็ได้มีเสียงหนึ่งดังออกมาว่า ” นี่..ใครมาแอบกินบ้านของข้า ?”


เจ้าของเสียงเป็นยายแม่มดแก่ที่ตาบอดมองไม่เห็น ออกมาปรากฏตัว และตรงเข้ามาจับเด็กทั้งสองไว้ทันที
” เหอ ๆๆเด็ก ๆ ที่น่าอร่อยนั่นเอง โทษฐานที่ พวกเจ้ามาแอบโขมยกินบ้านของข้า จะต้องโดนข้ากิน เข้าใจไหม?? ” ยายแม่มดได้จับฮันเซลขังไว้ในกรง และสั่งเกรเทลว่า ” ส่วนแกไปจัดการเตรียม อาหารมาให้พี่ของแกกินเข้าไปมากๆ ”


ด้วยนางแม่มดเห็นว่าฮันเซลนั้นมีร่างกายที่ผ่ายผอมมากนางจึงคิดที่จะ ทำให้เขาอ้วนขึ้นมาเสียก่อนแล้วค่อยกินทีหลังนั่นเอง ในวันหนึ่งนางได้สั่งฮันเซลว่า ” ไหนยื่นนิ้วของจ้าออกมาหน่อย ฉันจะจับดูว่าเจ้าอ้วนขึ้นหรือยัง ?” ฮันเซลยื่นกระดูกชิ้นหนึ่งซึ่ง เขาได้แอบซ่อนเอาไว้ออกมาให้นางจับ


” ทำไมเจ้าถึงได้ผอมมีแต่กระดูก..อย่างนี้เล่า?? เร็ว!..เอาอาหารมาให้พี่ ของแกกินเข้าไปอีกเยอะๆ ” ฮันเซลจำต้องกินอาหารมากขึ้นไปมากกว่าเก่าหลายเท่า เลยทีเดียว และในทุก ๆ วันก็จะเป็นอย่างนี้เรื่อยมา.. และไม่ว่านางจะมาตรวจสอบกี่ครั้ง ๆ ฮันเซลก็ยังจะยื่นกระดูกให้นางจับอยู่อย่างเดิม
” ทำไมแกถึงไม่ยอมอ้วนล่ะ?”


” ข้าหิวจนไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไป..” ในที่สุด นางก็หมดความอดทน ” ฉันจะไม่รอนานกว่านี้อีกแล้ว เกรเทลแกไปจัดการเตรียมกระทะแล้วต้มน้ำให้เดือด” เกรเทลตั้งกระทะใบใหญ่และเริ่มต้มน้ำตามคำสั่งของนาง แต่ด้วยนางแม่มด นั้นเกิดความหิวกระหายจนทนไม่ไหวเสียแล้ว นางจึงเปลี่ยนความคิดว่าจะกินเกรเทลเสียก่อนแก้หิว ” เกรเทลแกไปเปิดฝาเตาอบให้ข้าทีสิ คิดว่าเวลานี้มันคงจะร้อนพอแล้ว”นางแม่มดสั่ง

” ยื่นศรีษะของเจ้าเข้าไปดู แล้วบอกข้าหน่อย ”
เกรเทลจึง ยื่นศรีษะเข้าไป และแม้ว่ามันจะเริ่มร้อนขึ้นมามากแล้ว ” มันยังไม่ร้อนเลย ” เธอบอกโกหก ” เจ้ากำลังเล่นตลกกับข้าน่ะสิ ” นางแม่มดว่า
” ไม่เชื่อ ท่านก็ดูเองสิ ”
เกรเทลเถียง เมื่อนางแม่มดเปิดฝาเตาอบเกรเทลก็รีบ ผลักนางโดยแรง หญิงชราจึงคะมำหัวทิ่มเข้าไปในเตาอบ เกรเทลรีบปิดฝาเตาอบ และใส่กลอนทันที ” ว๊าย”


จากนั้นเกรเทลก็วิ่งไปที่กรงขัง และปล่อยฮันเซลออกมา สองพี่น้องกอดกันแน่น แล้วทั้งสองก็สำรวจไปทั่วบ้าน และพบว่าตามลิ้นชักเต็มไปด้วยเหรียญทองคำ สองพี่น้อง จึงช่วยกันโกยใส่กระเป๋าจนเต็ม แล้วตัดสินใจว่าจะค้นหาทางกลับบ้าน ฮันเซลกับ


เกรเทลเดินฝ่าไปในป่าตลอดทั้งวัน กระทั่งเมื่อตะวันลับฟ้า ทั้งสองก็มองเห็นกระท่อมของตน สองพี่น้องก็ออกวิ่งตรงไปยังบ้านน้อย หลังนั้น พ่อได้บอกว่าแม่เลี้ยงใจร้ายเสียชีวิตไปแล้ว ทั้งสามคนพ่อลูกต่าง ก็มีความสุขมากที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง จากนั้น พวกเขาก็คิดที่จะไปเก็บ เหรียญทองคำ ซึ่งมีจำนวนมากเกินพอที่จะทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่อย่าง สะดวกสุขสบายไปตลอดชีวิต

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไอศครีมทายใจ

รสชาติไอศครีม บอกนิสัยใจคอได้น้ะ....ไปดูกันเลย !!
 
 
วานิลลา
          คนที่ชอบไอศกรีมรสวานิลลา เป็นคนที่มีสีสันทำอะไรตามใจตัวเอง และชอบเสี่ยง พวกเขามักจะตั้งเป้าในชีวิตไว้สูงและมักจะคาดหวังกับตัวเองสูงเช่นกัน สนิทสนมและใกล้ชิดกับครอบครัว มีความเป็นส่วนตัวสูง ช่างคิด เจ้าอุดมคติ ชอบแสดงออกถึงความรู้สึกอย่างเปิดเผย และก็ยินดีที่จะรับคำแนะนำจากคนอื่น
 
ช็อกโกแลต
          เป็นคนมีชีวิตชีวา มีความคิดสร้างสรรค์ กระตือรือร้น มีเสน่ห์ และมักจะเป็นสีสันของงานปาร์ตี้แทบทุกงาน เพราะคนรักช็อกโกแลตชอบเป็นศูนย์กลางของความสนใจ และอาจเบื่อได้ง่ายถ้าต้องทำอะไรที่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เป็นกิจวัตรจนเกินไป พวกเธอยังชอบแต่งตัว เป็นคนเปิดเผยมักคล้อยตามเทรนด์หรือความคิดต่าง ๆ ได้ง่าย และมักจะอินกับความสัมพันธ์ต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งด้วย
 
 บัตเตอร์พีแคน
          ไอศกรีมรสนี้บ่งบอกถึงความเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ เจ้าระเบียบ ใส่ใจในรายละเอียด และระมัดระวังตัวอยู่เสมอ อาจเป็นคนค่อนข้างหัวเก่า แต่ก็เป็นคนที่มีสัญชาตญาณการแข่งขันสูง ชอบกีฬาที่ท้าทายและเป็นคนที่ชอบควบคุมคน
 
กล้วยหอม
          คอนที่ชอบไอศกรีมรสนี้เป็นคนง่าย ๆ ปรับตัวเข้าสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ใจกว้าง ซื่อสัตย์และเห็นอกเห็นใจคนอื่น
 
สตอรเบอร์รี่
          คุณเป็นคนค่อนข้างขี้อายนะ ถ้าชอบไอศกรีมรสนี้ และก็เป็นค่อนข้างเก็บตัวและชอบวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่แน่วแน่ มุ่งมั่น และละเอียดถี่ถ้วน จึงทำให้ค่อนข้างรู้สึกหงุดหงิดง่าย บางทีก็มองโลกในแง่ร้ายไปสักหน่อย ชอบรู้สึกผิดกับสิ่งต่าง ๆ และมีความนับถือตัวเองค่อนข้างต่ำในบางครั้ง
 
ช็อกโกแลตชิป
          ไอศกรีมนี้บ่งบอกถึงความเป็นคนใจกว้าง ชอบการแข่งขัน ทะเยอทะยาน และต้องการที่จะประสบความสำเร็จ ในยามที่ต้องออกงานสังคมก็มักเป็นคนที่มีเสน่ห์ เข้ากับคนได้ง่าย ทั้งยังเป็นคนที่มีศักยภาพสูงในหลายเรื่อง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่ว่าจะต้องการอะไรก็จะพยายามไขว่คว้ามาให้ได้ จึงเป็นคนที่ค่อนข้างรับไม่ได้กับความพ่ายแพ้

กินผลไม้ " ก็ขาวได้ "

ผลไม้ ช่วยบำรุงรักษาผิว...


1.มะนาว เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าผลกลมเล็กๆ อย่างมะนาวประสิทธิภาพไม่ได้เล็กน้อยเลย เพราะประกอบด้วยวิตามินซีสูงช่วยให้ผิวขาวใสได้อย่างมาก
2.ส้ม ส้มนั้นมีคุณประโยชน์ต่อผิวมากมาย ช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิวได้ ทำให้ผิวของคุณอ่อนเยาว์เปล่งปลั่ง กระจ่างใส
3.มะเขือเทศ ป้องกันปัญหาริ้วรอยแห่งวัย ชะลอวัยของคุณให้เป็นสาวผิวสวย คงความอ่อนเยาว์ไว้อย่างเนิ่นนาน 
4.ฝรั่ง เป็นผลไม้ที่ประกอบด้วยวิตามินซีสูงมากทีเดียว และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี

5.แอปเปิ้ล ราชาผลไม้อย่างแอปเปิ้ล อุดมด้วยเพคตินช่วยให้เล็บแข็งแรง ไม่เปราะหักง่าย

6.มะละกอ ใครที่มีปัญหาท้องผูกมักทำให้ผิวไม่ขาวใส หม่นหมอง ดังนั้น หากกินมะละกอรับรองไร้ปัญหาท้องผูกมากวนใจ เผยผิวขาวใสได้อย่างแน่นอน

7.กล้วยหอม เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หากทานตอนเช้าจะยิ่งดีมากๆ ทำให้อิ่มท้องนานด้วย
8.แตงโม ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส เปล่งปลั่ง ทำหน้าที่ล้างไต ขับสารพิษได้ และช่วยขับปัสสาวะ ไม่ทำให้เกิดโรคในทางเดินปัสสาวะ  





ความรัก กับ ชีวิตวัยรุ่น


ความรัก กับ ชีวิตวัยรุ่น
                “ ความรัก ” เมื่อเกิดขึ้นแล้ว หลายคนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่ความรักก็อาจจะทำให้เรามีความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกัน ในชีวิตวัยรุ่นมันไม่มีอะไรแน่นอนและความรักที่เกิดขึ้นมันก็อาจจะไม่ได้ยืนยาว ชีวิตคนเราต้องเจอสิ่งใหม่ๆ ต้องมีการเรียนรู้ขึ้นไปเรื่อยๆตามกาลเวลา หลายคนเคยสัญญากันเมื่อแรกคบ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปเราไม่อาจคาดเดาได้ว่าสิ่งที่เคยพูดไปตอนแรกจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ หลายคนที่เดินผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนมีความแตกต่างกัน การได้เจอความรักเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่มีรักแล้วต้องทำให้เราเสียใจ สิ่งเหล่านั้นมันจะทำให้เราจมอยู่กับสิ่งเดิมๆ อยู่กับสิ่งที่ผ่านไปแล้วแต่ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้ เมื่อเรามีความรัก ไม่มีใครสามารถบอกได้ ว่าต่อจากนี้ไปมันจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราควรดูแลความรักให้ดีที่สุด หากวันหนึ่ง...ความรักนี้ต้องจบลง คุณจะไม่เสียดายเลย เพราะอย่างน้อยคุณก็ทำเพื่อรักที่เกิดขึ้นดีที่สุดแล้ว
                                “ ทำความรักที่ดี.....ให้มีค่าที่สุด ”       

ทายนิสัย กรุ๊ป AB

ทายนิสัย ชาวกรุ๊ป AB มาลองดูกัน เลย...

กรุ๊ป AB ชอบทำอะไรไม่เป็นเวลา เช่น หมดเขตส่งงานแล้วยังนั่งเล่นเกม จะถึงเวลาเรียนแล้วยังนั่งเล่นคอมอยู่เลย

กรุ๊ป AB ซับซ้อนเกินไป ตัวเอบีเองยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเลย จะมาคาดหวังอะไรกับพวกเรา

กรุ๊ปAB - มีทั้งความคิดด้านที่เป็นเหตุและเป็นผล,ด้วยความที่มีบุคลิกซับซ้อน ก็เลยทำให้ดูลึกลับ

กรุ๊ป AB ถึงคนอื่นจะมองว่าเย็นชา แต่ถ้าลองมาคุยแล้วรั่วมากนะ

กรุ๊ป AB อ้อนไม่ค่อยเป็น

กรุ๊ป AB ไม่ใช่คนที่ร้องไห้กับอะไรง่ายๆ แต่ถ้าคุณทำให้มันไหลได้ " คุณควรพิจารณาตนเอง

กรุ๊ป AB พวกเราอยู่เหนือทฤษฎีใด ไร้คำจำกัดความ

กรุ๊ป AB มีลักษณะหลายๆอย่างรวมกันอยู่ เลยอ่านใจคนออก

กรุ๊ป AB ถ้าแอบรักใครจะไม่ค่อยบอกหรอก แค่แอบรักเขาก็มีความสุข เป็นคนที่ไม่ค่อยจะจีบใครก่อน อายที่จะบอกรัก

กรุ๊ป AB เวลาขี้เกียจฟังที่คนอื่นเล่า จะชวนคนนั้นทำอย่างอื่นแทน จะได้ไม่เล่า.

กรุ๊ป AB สนิทกับใครจะไว้ใจมาก ไม่ชอบใครต่อให้ทำดีกับแค่ไหน ก็อคติเหมือนเดิม

กรุ๊ป AB เข้าใจอะไรง่าย ชอบคิดไปเอง ทำให้บางครั้งเสียความรู้สึกเองเพราะคิดไปเอง ไม่ได้ฟังความจริง

กรุ๊ป AB เป็นคนที่ค่อนข้างจะชอบทำอะไร ที่ตัวเองอยากทำ ไม่ชอบให้ใครบังคับมาสั่งเขา

กรุ๊ป AB อกหักแล้ว"เพ้อเงียบ" เพ้อเขียนไดอารี่ หรืออัพสเตตัส twitter facebook ถึงคนๆนั้น

กรุ๊ป AB เป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง มีความเชื่อมั่นในตัวเอง

ตรงกันบ้างมั้ยเอ่ย....(??)

ทายนิสัย กรุ๊ป O

ทายนิสัย ชาวกรุ๊ป O มาลองดูกัน เลย...
 
 

กรุ๊ปO - ไม่ค่อยไว้ใจใคร แต่ถ้าไว้ใจเมื่อไหร่ก็จะเป็นกันเองสุดๆ

กรุ๊ป O รักคนง่าย อยู่ใกล้กับใครนานๆก็ชอบ ภูมิต้านทานหัวใจต่ำ

กรุ๊ป O จะคิดมากต่อเมื่อมีเรื่องอะไรให้คิด

คนกรุ๊ป O ชอบฝันกลางวัน

คนกรุ๊ปO ไม่ชอบให้คนอื่นดูว่าเธออ่อนแอ ถึงแม้เธอจะไม่สบายเธอก็พยายามทำตัวร่าเริงเท่าที่จะทำได้

คนกรุ๊ปO ชอบทำให้คนที่เรารักเป็นห่วง อยากอ้อน อยากให้สนใจ><"

คนกรุ๊ปO อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงง่าย

คนกรุ๊ปO ถ้ารอใครสักคนได้ คนนั้นต้องสำคัญจริงๆ

คนกรุ๊ปOชอบความเป็นส่วนตัวที่สุด

คนกรุ๊ป O เวลาโมโหจะเหมือนช้างพัง เหวี่ยงได้กับทุกคนรอบข้าง

คนกรุ๊ปO มีความสามารถเด่นๆอยู่4อย่าง1.ดราม่าเก่ง2.เปลี่ยนอารมณ์เก่ง3.นอนเก่ง4.กินเก่ง

คนกรุ๊ป O เวลารัก รักใจจะขาด พอหมดรัก อย่าให้เจอเด็ดขาด

คนกรุ๊ป O ถึงจะชอบทำตัวง้องแง้งงอแงเป็นเด็ก แต่ความคิดเป็นผู้ใหญ่รู้เสมอว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ

คนกรุ๊ป O บางครั้งบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องยุ่งวุ่นวาย ความเป็นจริงตรงกันข้ามกับความรู้สึก ปากกับใจไม่ตรงกัน

คนกรุ๊ป O เหมือนจะเป็นคนเคร่งเครียด จริงจัง แต่จริงๆแล้ว ถ้าได้รู้จักแบบจริงๆ คนกรุ๊ปนี้ เฮฮา และ รั่ว มาก

คนกรุ๊ป O ข้างนอกอาจดูเข้มแข็งแต่ข้างในอ่อนไหว ข้างนอกอาจทำเป็นไม่เสียใจแต่ข้างในน้ำตาคลอ

คนกรุ๊ป O มองดูเฉยๆอาจจะดูหยิ่ง แต่ที่จริงกรุ๊ป O ไม่ถนัดที่จะทักใครก่อน ไม่ได้เจ้าชู้นะ...แต่คุยได้กับทุกคน

คนกรุ๊ป O เวลาที่อยากได้อะไรสักอย่างต้องได้ให้ในที่สุด จะไม่ค่อยคิดก่อน แต่พอได้มันมาแล้วจะคิดทันที "เสียดายเงิน , ไม่น่าซื้อ
ตรงกันบ้างมั้ยเอ่ย....(??)
 


ทายนิสัย กรุ๊ป B


ทายนิสัย ชาวกรุ๊ป B มาลองดูกันเลย...
 
กรุ๊ป B เวลาทำงานจะใช้อารมณ์เป็นหลัก วันไหนไม่มีอารมณ์ก็ทิ้งมันไว้งั้นแหละ ขี้เกียจ

กรุ๊ปB - ไม่ชอบอยู่ในที่ที่ไม่สะดวกสบายหรือซับซ้อนวุ่นวาย

กรุ๊ป B ชอบชวนทะเลาะ แต่ถึงตัวเองจะผิดก็ไม่ยอมขอโทษอยู่ดี พวกปากหนัก

กรุ๊ป B เปลี่ยนใจอะไรง่ายมากๆ

กรุ๊ป B อาจจะดูร้ายๆ แต่เป็นคนที่จริงใจ

กรุ๊ป B ไม่ค่อยแสดงออกว่ารักซะเท่าไร แต่ในใจคือรักมาก หวงมาก

กรุ๊ป B ขี้น้อยใจมาก

กรุ๊ป B เป็นอะไรไม่ค่อยบอกใคร จะเก็บไว้จนกว่าจะทนไม่ไหว บอกหมดเลย

กรุ๊ป B ถ้ามีคนทำให้คิดมาก จะคิดมากเว่อร์ๆ จะเริ่มโทษตัวเองว่าผิด

กรุ๊ป B ต้องการเวลาส่วนตัว จะปิดกั้นทุกอย่าง อย่าเพิ่งมายุ่งกับเรา

กรุ๊ป B เป็นคนเฮฮา เวลาทำอะไรก็อยากให้มีเพื่อนร่วมเยอะๆจะได้สนุกๆ

กรุ๊ป B ความจริงบีคิดมากมากมากแต่ชอบแสดงออกว่าไม่เป็นอะไร

กรุ๊ป B เวลามองอะไรชอบมองในมุมที่แตกต่างจากคนอื่น ขัดแย้งกับคนอื่นตลอด

กรุ๊ป B เจอคนแปลกหน้าที่ไม่ถูกชะตาบีจะทำหน้าหยิิ่งใส่

กรุ๊ป B ยอมคนยาก ไม่ชอบยอมใคร

กรุ๊ป B เป็นพวกกลัวแต่ชอบท้าทาย

กรุ๊ป B รักอิสระมากๆ ถึงจะมีแฟนแล้วแต่ก็ยังต้องการความอิสระอยู่

กรุ๊ป B เข้ากับคนง่ายมากกกกกกก แต่คนอื่นก็เข้าถึงตัวตนจริงๆของเรายากเหมือนกัน
 
ตรงกันบ้างมั้ยเอ่ย... (??)